type="text/css">body, a:hover {cursor: url(http://cur.cursors-4u.net/food/foo-5/foo429.cur), progress !important;}Carrot

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ไวรัสคอมพิวเตอร์

                                                                         ไวรัสคอมพิวเตอร์
ไวรัสคอมพิวเตอร์ (computer virus)หรือเรียกสั้นๆ ว่าไวรัส คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บุกรุกเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ ส่วมมากมักจะพัณนาขึ้นพื่อสร้างความเสียหายของระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆซึ่งไวรัสแบ่งออกเป็น6ประเภทดังนี้
1 ไวรัสพาราสิต (parasitic virus) ไวรัสประเภทนี้จะเริ่มทำงานและจำลองตัวเองเมื่อมีการเรียกใช้งานไฟล์ที่ติดไวรัส ไวรัสคอมพิวเตอร์ส่วนมากจะป็นประเภทนี้
2 ไวรัสบูตเซกเตอร์ (boot sector virus) ไวรัสประเภทนี้จะฝังตัวลงไปในบูตเซกเตอร์ แทนที่คำสั่งที่ใช้ในการเริ่มต้นทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นใช้งาน ไวรัสประเภทนี้จะโหลดตัวเองเข้าไปที่หน่วยความจำก่อนที่จะโหลดระบบปฏิบัติการ หลังจากนั้นจะสำเนาตวเองไปฝังอยู่กับไฟล์อื่นๆด้วย
3 ไวรัวสเตลท์ (stealth virus) ไวรัสประเภทนี้เป็นไวรัสที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้อยู่ในรูปแบบโปรแกรมที่ป้องกันไวรัสต่างๆ ตรวจไม่พบ และเมื่อไปติดกับโปรแกรมใดแล้วจะทำให้โปรแกรมนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
4 ไวรัสโพลีมอร์ฟิก (polymorphic virus) ไวรัสประเภทนี้มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกครั้งที่ติดต่อไปยังเคริองคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะส่งผลทำให้ไวรัสคอมพิวเตอร์นี้ตรวจพบได้ยาก
5 ไวรัสแมโคร (macro virus) ไวรัสประเภทนี้จะมีผลกับ macro Application (มักจะพบในโปรแกรมประเภทword Processors)เมื่อผู้ใช้เรียกไฟล์ที่มีไวรัสติดมาด้วย จะทำให้ไวรัสไปฝังตัวอยู่ที่หน่วยความจำเต็ม ซึ่งจะทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์ช้าลง และอาจจะส่งผลเสียต่อข้อมูลที่เก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์ได้
6 หนอนอินเทอร์เน็ต (worms) เป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่จะติดต่อกันได้ทางอินเทอร์เน็ตสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว โดยไวรสชนิดนี้จะคัดลอกตัวเองซ้ำแล้วใช้ระบบเคลือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการแพร่กระจายโดยที่ไปจะมากับอีเมล ตัวอย่างของหนอนอินเทาอร์เน็ต คือ Adore โดยจะทำการค้นหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการ Linux หลังจากน้ะนจะสร้างช่องทางในตอมพิวเตอร์เพื่อใช้แฮกเกอร์(hacker)สามารถเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นได้
ที่มา:หนังสือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น